Search engine optimization การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหาคืออะไร?

SEO ย่อมาจาก Search engine optimization “การปรับแต่งโปรแกรมค้นหา” พูดง่ายๆ ก็คือกระบวนการปรับปรุงไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มการมองเห็นเมื่อผู้คนค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณใน Google, Bing และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ยิ่งเพจของคุณมีการแสดงผลที่ดีขึ้นในผลการค้นหา ก็ยิ่งมีโอกาสที่คุณจะดึงดูดความสนใจและดึงดูดลูกค้าที่คาดหวังและลูกค้าปัจจุบันมาที่ธุรกิจของคุณมากขึ้นเท่านั้น

SEO ทำงานอย่างไร?

เครื่องมือค้นหา เช่น Google และ Bing ใช้บอตเพื่อรวบรวมข้อมูลหน้าต่างๆ บนเว็บ ไปจากไซต์หนึ่งไปอีกไซต์หนึ่ง รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเหล่านั้นและใส่ไว้ในดัชนี ให้นึกถึงดัชนีเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่บรรณารักษ์สามารถดึงหนังสือ (หรือหน้าเว็บ) ขึ้นมาเพื่อช่วยคุณค้นหาสิ่งที่คุณต้องการในขณะนั้น

ต่อไป อัลกอริทึมจะวิเคราะห์หน้าเว็บในดัชนี โดยคำนึงถึงปัจจัยการจัดอันดับหรือสัญญาณหลายร้อยรายการ เพื่อพิจารณาว่าหน้าคำสั่งซื้อควรปรากฏในผลการค้นหาสำหรับข้อความค้นหาที่กำหนด ในการเปรียบเทียบห้องสมุดของเรา บรรณารักษ์อ่านหนังสือทุกเล่มในห้องสมุดและสามารถบอกคุณได้อย่างชัดเจนว่าหนังสือเล่มใดจะมีคำตอบสำหรับคำถามของคุณ

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของ Search engine optimization ของเราสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นพร็อกซีสำหรับแง่มุมของประสบการณ์ผู้ใช้ เป็นวิธีที่บอทค้นหาประเมินว่าเว็บไซต์หรือหน้าเว็บสามารถให้สิ่งที่ค้นหาแก่ผู้ค้นหาได้ดีเพียงใด

ซึ่งแตกต่างจากโฆษณาบนการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย คุณไม่สามารถจ่ายเงินให้เครื่องมือค้นหาเพื่อให้ได้อันดับการค้นหาทั่วไปที่สูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO จะต้องทุ่มเทในการทำงาน นั่นคือสิ่งที่เราเข้ามา

ตารางธาตุของปัจจัย SEO ของเราจัดปัจจัยต่างๆ ออกเป็น 6 หมวดหมู่หลักและให้น้ำหนักแต่ละประเภทตามความสำคัญโดยรวมที่มีต่อ SEO ตัวอย่างเช่น คุณภาพของเนื้อหาและการวิจัยคีย์เวิร์ดเป็นปัจจัยสำคัญของการปรับเนื้อหาให้เหมาะสม ส่วนความสามารถในการรวบรวมข้อมูลและความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญด้านสถาปัตยกรรมของเว็บไซต์

ตารางธาตุ SEO ที่อัปเดตใหม่ยังมีรายการสารพิษที่ลดทอนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ SEO นี่เป็นทางลัดหรือลูกเล่นที่อาจเพียงพอในการรับประกันอันดับสูงในสมัยก่อนที่วิธีการของเครื่องยนต์ไม่ซับซ้อนมากนัก และตอนนี้พวกมันอาจทำงานในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะถูกจับได้

นอกจากนี้ เรายังมีส่วน Niches ใหม่ล่าสุดที่เจาะลึกถึงปัจจัยความสำเร็จของ Search engine optimization ที่อยู่เบื้องหลัง Niches ที่สำคัญสามประการ: Local SEO, News/Publishing และ Ecommerce SEO แม้ว่าตารางธาตุ SEO โดยรวมของเราจะช่วยคุณในเรื่องแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด แต่การรู้ความแตกต่างของ SEO สำหรับแต่ละ Niches เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในผลการค้นหาสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก บล็อกสูตรอาหาร และ/หรือร้านค้าออนไลน์

อัลกอริทึมการค้นหาได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงหน้าที่เกี่ยวข้องและเชื่อถือได้  yangdee และมอบประสบการณ์การค้นหาที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้ใช้ การเพิ่มประสิทธิภาพไซต์และเนื้อหาของคุณโดยคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้สามารถช่วยให้หน้าเว็บของคุณมีอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา

เหตุใด Search engine optimization จึงมีความสำคัญต่อการตลาด

SEO เป็นส่วนพื้นฐานของการตลาดดิจิทัล เนื่องจากผู้คนทำการค้นหาหลายล้านล้านครั้งทุกปี โดยมักจะมีเจตนาเชิงพาณิชย์เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ การค้นหามักเป็นแหล่งที่มาหลักของการเข้าชมดิจิทัลสำหรับแบรนด์และช่วยเสริมช่องทางการตลาดอื่นๆ การมองเห็นที่มากขึ้นและการจัดอันดับในผลการค้นหาที่สูงกว่าคู่แข่งของคุณอาจส่งผลกระทบที่สำคัญต่อผลกำไรของคุณ

อย่างไรก็ตาม ผลการค้นหาได้รับการพัฒนาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบและข้อมูลที่ตรงประเด็นมากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ใช้ให้อยู่ในหน้าผลการค้นหาแทนที่จะนำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ

นอกจากนี้ โปรดทราบว่า คุณลักษณะต่างๆ เช่น ผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์และแผงความรู้ในผลการค้นหาสามารถเพิ่มการมองเห็นและให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้เกี่ยวกับบริษัทของคุณโดยตรงในผลการค้นหา

โดยสรุป SEO เป็นรากฐานของระบบนิเวศทางการตลาดแบบองค์รวม เมื่อคุณเข้าใจว่าผู้ใช้เว็บไซต์ของคุณต้องการอะไร คุณจะสามารถนำความรู้นั้นไปใช้ในแคมเปญของคุณ (แบบเสียค่าใช้จ่ายและทั่วไป) ทั่วทั้งเว็บไซต์ ในทุกคุณสมบัติสื่อสังคมออนไลน์ของคุณ และอื่นๆ

ฉันจะเรียนรู้ SEO ได้อย่างไร

สำหรับการดำน้ำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ SEO ตารางธาตุของปัจจัย Search engine optimization ของเราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับแนวคิดหลักทั้งหมดที่คุณต้องรู้ รวมถึงองค์ประกอบสำหรับ SEO ในหน้าและนอกหน้าที่ประสบความสำเร็จ รวมถึง “พิษ” หรือกลยุทธ์ที่อาจทำร้าย การจัดอันดับของคุณ

ตารางและรายงานประกอบยังดูที่การค้นหาสามกลุ่ม:

• SEO ท้องถิ่น
• สิ่งพิมพ์/ข่าว SEO
• SEO อีคอมเมิร์ซ

ตารางธาตุของปัจจัย SEO ทำหน้าที่เป็นรากฐานของคู่มือ Search engine optimization นี้ แหล่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับ SEO และแจ้งกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ

คู่มือ SEO ของ Search Engine Land

ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมตารางธาตุของปัจจัย SEO ของเรา Search Engine Land’s Guide To SEO จะแนะนำคุณเกี่ยวกับพื้นฐานของการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหา เพื่อให้คุณสามารถพัฒนากลยุทธ์ที่มั่นคงเพื่อกระตุ้นการเข้าชมแบบออร์แกนิกมายังไซต์ของคุณ

ในคำแนะนำด้านล่าง เราอธิบายปัจจัยเหล่านี้ในเชิงลึกมากขึ้น และเน้นเคล็ดลับเชิงกลยุทธ์จากผู้เชี่ยวชาญในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับผู้เข้าชมมากขึ้นจากการค้นหาทั่วไป

• 1: ประเภทของปัจจัยความสำเร็จของเครื่องมือค้นหา: สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยในและนอกหน้าที่สามารถส่งผลต่ออันดับการค้นหาของคุณ นอกจากนี้ เราจะดูแนวดิ่งเฉพาะใน SEO และกลยุทธ์ SEO ที่เป็นพิษที่ควรหลีกเลี่ยง
• 2: ปัจจัยความสำเร็จของเนื้อหาและเครื่องมือค้นหา: คำนึงถึงองค์ประกอบเหล่านี้เพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่เครื่องมือค้นหาและกลุ่มเป้าหมายของคุณจะชื่นชอบ
• 3: สถาปัตยกรรมไซต์และปัจจัยความสำเร็จของเครื่องมือค้นหา: มาดูเบื้องหลังและดูแง่มุมต่างๆ ของไซต์ของคุณที่ทำให้เครื่องมือค้นหาเข้าถึงและมีอิทธิพลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ได้ง่าย
• 4: รหัส HTML และปัจจัยความสำเร็จของเครื่องมือค้นหา: แท็ก HTML และข้อมูลที่มีโครงสร้างช่วยจัดระเบียบข้อมูลในไซต์ของคุณและช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาของคุณ
• 5: ความน่าเชื่อถือ อำนาจหน้าที่ ความเชี่ยวชาญ & การจัดอันดับการค้นหา: วิธีที่ผู้ใช้ของคุณมีส่วนร่วมกับไซต์ของคุณ ตลอดจนชื่อเสียงและอำนาจของไซต์ ช่วยให้เครื่องมือค้นหาพิจารณาว่าไซต์ของคุณสมควรที่จะแสดงต่อผู้ใช้หรือไม่
• 6: การสร้างลิงก์และการจัดอันดับในเครื่องมือค้นหา: เหตุใดลิงก์จึงยังคงมีความสำคัญและสิ่งที่พวกเขาบอกเครื่องมือค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหาของคุณ
• 7: การตั้งค่าส่วนบุคคลและการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหา: องค์ประกอบเหล่านี้เป็นองค์ประกอบเฉพาะของผู้ใช้ เช่น ตำแหน่งที่ตั้งและความตั้งใจ ซึ่งอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ผู้ใช้เห็น
• 8: สารพิษและบทลงโทษสแปมของเครื่องมือค้นหา: ระวัง Search engine optimization “ทางลัด” การถูกจับได้โดยใช้กลวิธีเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการลงโทษโดยเจ้าหน้าที่ หรือแม้กระทั่งทำให้ไซต์ของคุณถูกลบออกจากดัชนีการค้นหา

บทที่ 9: แนวดิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในการค้นหา: การค้นหาด้วยเสียง ท้องถิ่น รูปภาพ และวิดีโอเป็นวิธีใหม่สำหรับผู้ใช้ในการค้นหาสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าแต่ละแบรนด์จะมอบโอกาสที่เหมาะสมให้กับแบรนด์ แต่ก็ยังอิงตามหลักการพื้นฐานของ SEO

การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) คืออะไร?

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) เป็นศาสตร์และศิลป์ของการทำให้หน้าเว็บอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นในเครื่องมือค้นหา เช่น Google เนื่องจากการค้นหาเป็นหนึ่งในวิธีหลักที่ผู้คนค้นพบเนื้อหาออนไลน์ การจัดอันดับที่สูงขึ้นในเครื่องมือค้นหาอาจนำไปสู่การเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์

ใน Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ หน้าผลลัพธ์มักจะมีโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่ายที่ด้านบนของหน้า ตามด้วยผลลัพธ์ปกติหรือที่นักการตลาดการค้นหาเรียกว่า “ผลการค้นหาทั่วไป” การเข้าชมที่มาจาก SEO มักถูกเรียกว่า “การเข้าชมจากการค้นหาทั่วไป” เพื่อแยกความแตกต่างจากการเข้าชมที่มาจากการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย การค้นหาที่เสียค่าใช้จ่ายมักเรียกว่าการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา (SEM) หรือแบบจ่ายต่อคลิก (PPC)

ประโยชน์ของ Search engine optimization

การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาเป็นส่วนสำคัญของการตลาดออนไลน์ เนื่องจากการค้นหาเป็นหนึ่งในวิธีหลักที่ผู้ใช้สำรวจเว็บ ในปี 2014 มีการค้นหามากกว่า 2.5 ล้านล้านรายการทั่วโลกผ่านเครื่องมือค้นหาต่างๆ เช่น Google, Bing, Yahoo, Baidu และ Yandex สำหรับเว็บไซต์ส่วนใหญ่ การเข้าชมที่มาจากเครื่องมือค้นหา (เรียกว่าการเข้าชม “ธรรมชาติ” หรือ “ทั่วไป”) คิดเป็นส่วนใหญ่ของการเข้าชมทั้งหมด

ผลการค้นหาจะแสดงเป็นรายการตามลำดับ และยิ่งไซต์สามารถได้รับรายการที่สูงขึ้นเท่าใด ไซต์ก็จะมีแนวโน้มที่จะได้รับการเข้าชมมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น สำหรับข้อความค้นหาทั่วไป ผลลัพธ์อันดับหนึ่งจะได้รับ 40–60% ของการเข้าชมทั้งหมดสำหรับข้อความค้นหานั้น โดยที่ผลลัพธ์อันดับสองและสามได้รับการเข้าชมน้อยกว่ามาก มีผู้ค้นหาเพียง 2–3% เท่านั้นที่คลิกเลยหน้าแรกของผลการค้นหา ดังนั้น การปรับปรุงเล็กน้อยในการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหาอาจส่งผลให้เว็บไซต์ได้รับการเข้าชมเพิ่มขึ้นและธุรกิจที่มีศักยภาพ

ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจำนวนมากและเจ้าของเว็บไซต์จะพยายามควบคุมผลการค้นหาเพื่อให้ไซต์ของตนปรากฏในหน้าผลการค้นหา (SERP) สูงกว่าคู่แข่ง นี่คือที่มาของ SEO

การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาทำงานอย่างไร

เครื่องมือค้นหา เช่น Google ใช้อัลกอริทึมหรือชุดของกฎเพื่อกำหนดว่าจะแสดงหน้าใดสำหรับการค้นหาใดๆ อัลกอริทึมเหล่านี้ได้รับการพัฒนาให้มีความซับซ้อนอย่างมาก และคำนึงถึงปัจจัยการจัดอันดับที่แตกต่างกันหลายร้อยหรือหลายพันปัจจัยในการพิจารณาการจัดอันดับของ SERP อย่างไรก็ตาม มีสามเมตริกหลักที่เครื่องมือค้นหาประเมินเพื่อกำหนดคุณภาพของไซต์และวิธีจัดอันดับ:

• ลิงค์ — ลิงค์จากเว็บไซต์อื่นมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอันดับของไซต์ใน Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ เหตุผลก็คือ ลิงก์สามารถถูกมองว่าเป็นการโหวตคุณภาพจากเว็บไซต์อื่น เนื่องจากเจ้าของเว็บไซต์ไม่น่าจะเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นที่มีคุณภาพต่ำ ไซต์ที่ได้รับลิงก์จากไซต์อื่น ๆ จำนวนมากจะมีอำนาจ (เรียกว่า “PageRank” ใน Google) ในสายตาของเครื่องมือค้นหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังไซต์นั้นมีอำนาจ
• เนื้อหา — นอกจากการดูลิงก์แล้ว เครื่องมือค้นหายังวิเคราะห์เนื้อหาของหน้าเว็บเพื่อพิจารณาว่าเนื้อหานั้นเกี่ยวข้องกับคำค้นหาที่ระบุหรือไม่ ส่วนใหญ่ของ SEO คือการสร้างเนื้อหาที่กำหนดเป้าหมายไปยังคำหลักที่ผู้ใช้เครื่องมือค้นหากำลังค้นหา
• โครงสร้างหน้า — องค์ประกอบหลักที่สามของ SEO คือโครงสร้างหน้า เนื่องจากหน้าเว็บเขียนขึ้นด้วย HTML โครงสร้างของโค้ด HTML จึงส่งผลต่อความสามารถของเครื่องมือค้นหาในการประเมินหน้าเว็บ การใส่คำหลักที่เกี่ยวข้องในชื่อ URL และส่วนหัวของหน้า และการตรวจสอบว่าไซต์สามารถรวบรวมข้อมูลได้คือการดำเนินการที่เจ้าของไซต์สามารถทำได้เพื่อปรับปรุง SEO ของไซต์ของตน
• กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาเกี่ยวข้องกับการปรับแต่ละองค์ประกอบหลักเหล่านี้ของอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหาเพื่อให้อันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา

เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา

การทำความเข้าใจวิธีการทำงานของเครื่องมือค้นหาเป็นเพียงขั้นตอนแรกของกระบวนการในการปรับปรุงอันดับการค้นหาของไซต์ การปรับปรุงอันดับของไซต์นั้นเกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากเทคนิค SEO ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพไซต์สำหรับการค้นหา:

• การวิจัยคำหลัก — การวิจัยคำหลักมักเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับ Search engine optimization และเกี่ยวข้องกับการดูว่าเว็บไซต์อยู่ในการจัดอันดับคำหลักใด คำหลักที่คู่แข่งจัดอันดับให้ และคำหลักอื่นๆ ที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ากำลังค้นหาอยู่ การระบุคำที่ผู้ค้นหาใช้ในการค้นหาโดย Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ จะช่วยกำหนดทิศทางว่าเนื้อหาที่มีอยู่ใดที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ และเนื้อหาใหม่ใดที่สามารถสร้างได้
• การตลาดเนื้อหา — เมื่อมีการระบุคำหลักที่เป็นไปได้ การตลาดเนื้อหาจะเข้ามามีบทบาท สิ่งนี้อาจเป็นการอัปเดตเนื้อหาที่มีอยู่หรือสร้างเนื้อหาใหม่เอี่ยม เนื่องจาก Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ให้ความสำคัญกับเนื้อหาคุณภาพสูง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องค้นคว้าว่ามีเนื้อหาใดบ้างที่มีอยู่แล้ว และสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจซึ่งมอบประสบการณ์เชิงบวกแก่ผู้ใช้ และมีโอกาสได้รับการจัดอันดับสูงในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา . เนื้อหาที่ดียังมีโอกาสมากขึ้นที่จะถูกแชร์บนโซเชียลมีเดียและดึงดูดลิงก์
• การสร้างลิงก์ — เนื่องจากลิงก์จากเว็บไซต์ภายนอก (เรียกว่า “ลิงก์ย้อนกลับ” ในภาษา SEO) เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการจัดอันดับใน Google และเครื่องมือค้นหาหลักอื่นๆ การได้รับลิงก์ย้อนกลับคุณภาพสูงจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักที่ SEO มี สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมเนื้อหาที่ดี การเข้าถึงเว็บไซต์อื่น ๆ และสร้างความสัมพันธ์กับเว็บมาสเตอร์ การส่งเว็บไซต์ไปยังไดเรกทอรีเว็บที่เกี่ยวข้อง และการสื่อให้ดึงดูดลิงก์จากเว็บไซต์อื่น ๆ
• การเพิ่มประสิทธิภาพในหน้า — นอกเหนือจากปัจจัยนอกหน้า เช่น ลิงก์แล้ว การปรับปรุงโครงสร้างที่แท้จริงของหน้าอาจมีประโยชน์มหาศาลสำหรับ SEO และเป็นปัจจัยที่อยู่ในการควบคุมของผู้ดูแลเว็บทั้งหมด เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพในหน้าทั่วไปรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ URL ของหน้าเพื่อรวมคำหลัก อัปเดตแท็กชื่อเรื่องของหน้าเพื่อใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง และการใช้แอตทริบิวต์ alt เพื่ออธิบายรูปภาพ การอัปเดตเมตาแท็กของเพจ (เช่น แท็กคำอธิบายเมตา) อาจมีประโยชน์เช่นกัน แท็กเหล่านี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการจัดอันดับการค้นหา แต่สามารถเพิ่มอัตราการคลิกผ่านจาก SERP
• การเพิ่มประสิทธิภาพสถาปัตยกรรมเว็บไซต์ — ลิงก์ภายนอกไม่ใช่สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับ SEO ลิงก์ภายใน (ลิงก์ภายในเว็บไซต์ของตนเอง) ก็มีบทบาทอย่างมากใน SEO เช่นกัน ดังนั้นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาสามารถปรับปรุง SEO ของไซต์ได้โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าหลักถูกลิงก์ไปและมีการใช้ anchor text ที่เกี่ยวข้องในลิงก์เหล่านั้นเพื่อช่วยปรับปรุงความเกี่ยวข้องของหน้าสำหรับคำเฉพาะ การสร้างแผนผังเว็บไซต์ XML ยังเป็นวิธีที่ดีสำหรับหน้าเว็บขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้เครื่องมือค้นหาค้นพบและรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บทั้งหมดของเว็บไซต์
• Semantic Markup — อีกกลยุทธ์ SEO ที่ผู้เชี่ยวชาญ SEO ใช้คือการปรับมาร์กอัปความหมายของเว็บไซต์ให้เหมาะสม มาร์กอัปความหมาย (เช่น Schema.org) ใช้เพื่ออธิบายความหมายเบื้องหลังเนื้อหาในหน้า เช่น ช่วยระบุว่าใครเป็นผู้เขียนเนื้อหา หรือหัวข้อและประเภทของเนื้อหาในหน้า การใช้มาร์กอัปสื่อความหมายสามารถช่วยแสดงตัวอย่างข้อมูลสื่อสมบูรณ์ในหน้าผลการค้นหา เช่น ข้อความเพิ่มเติม ดาวรีวิว หรือแม้แต่รูปภาพ Rich snippets ใน SERPs ไม่มีผลกระทบต่อการจัดอันดับการค้นหา แต่สามารถปรับปรุง CTR จากการค้นหา ส่งผลให้การเข้าชมแบบออร์แกนิกเพิ่มขึ้น

เครื่องมือ SEO ยอดนิยม

มีเครื่องมือและซอฟต์แวร์มากมายที่นัก Search engine optimization พึ่งพาเพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ ด้านล่างนี้คือเครื่องมือฟรีและเสียเงินที่ใช้กันทั่วไป:

• Google Search Console — Google Search Console (เดิมเรียกว่า “Google Webmaster Tools”) เป็นเครื่องมือฟรีที่ Google ให้บริการ และเป็นเครื่องมือมาตรฐานในชุดเครื่องมือของ SEO GSC จัดเตรียมการจัดอันดับและรายงานการเข้าชมสำหรับคำหลักและหน้าเว็บยอดนิยม และสามารถช่วยระบุและแก้ไขปัญหาทางเทคนิคในไซต์ได้
• เครื่องมือวางแผนคำหลักของ Google Ads — เครื่องมือวางแผนคำหลักเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือฟรีที่จัดทำโดย Google ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ Google Ads ของพวกเขา แม้ว่าจะได้รับการออกแบบมาสำหรับการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำ SEO เนื่องจากให้คำแนะนำคำหลักและปริมาณการค้นหาคำหลัก ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อทำการวิจัยคำหลัก
• เครื่องมือวิเคราะห์ลิงก์ย้อนกลับ — มีเครื่องมือวิเคราะห์ลิงก์อยู่หลายตัว เครื่องมือหลักสองตัวคือ AHREF และ Majestic เครื่องมือวิเคราะห์ลิงก์ย้อนกลับช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ว่าเว็บไซต์ใดเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของตนเองหรือเว็บไซต์ของคู่แข่ง และสามารถใช้เพื่อค้นหาลิงก์ใหม่ระหว่างการสร้างลิงก์
• แพลตฟอร์ม SEO — มีแพลตฟอร์ม SEO มากมายที่รวบรวมเครื่องมือมากมายที่ SEO จำเป็นต้องใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ บางส่วนที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Moz, BrightEdge, Searchmetrics และ Linkdex แพลตฟอร์มเหล่านี้ติดตามการจัดอันดับคำหลัก ช่วยในการวิจัยคำหลัก ระบุโอกาสในการทำ SEO ในหน้าและนอกหน้า และงานอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับ SEO
• โซเชียลมีเดีย — ไซต์โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อ SEO แต่สามารถเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับการสร้างเครือข่ายกับผู้ดูแลเว็บรายอื่นและสร้างความสัมพันธ์ที่อาจนำไปสู่การสร้างลิงก์และโอกาสในการโพสต์ของแขก

การเพิ่มประสิทธิภาพปริมาณการค้นหา: จากการคลิกเป็นการแปลง

การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาที่ทำอย่างถูกต้องอาจมีศักยภาพในการเพิ่มปริมาณการเข้าชมที่เว็บไซต์ได้รับอย่างมาก แต่การเข้าชมจากการค้นหาทั้งหมดนั้นจะไม่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตเว้นแต่จะเปลี่ยนเป็นลูกค้าที่ชำระเงิน นี่คือที่มาของการเพิ่มประสิทธิภาพอัตราการแปลง (CRO)

การเพิ่มประสิทธิภาพอัตราการแปลงเกี่ยวข้องกับการใช้วิธีการต่างๆ เช่น การทดสอบ A/B เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงกับเว็บไซต์และวัดผลกระทบที่มีต่ออัตราการแปลงของไซต์ นักการตลาดการค้นหาที่ประสบความสำเร็จรู้ดีว่าแค่การได้รับการเข้าชมมายังไซต์นั้นไม่เพียงพอ สิ่งที่การเข้าชมทำเมื่อมาถึงไซต์ก็มีความสำคัญพอๆ กัน

CRO ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระบวนการที่ยากและใช้เทคนิคสูง แต่ด้วยซอฟต์แวร์เช่น WE การทดสอบการทำงานเพื่อปรับปรุงการแปลงบนเว็บไซต์ของคุณนั้นง่ายเหมือนการแทรก Javascript บรรทัดเดียว เหนือสิ่งอื่นใด โปรแกรมแก้ไขภาพของ WE ช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว

Search engine optimization มีความจำเป็นเช่นไร เพราะเหตุใดถึงจำเป็นต้องทำ?

• จุดสำคัญของกระบวนการทำ SEO มีหลายประการ ดังเช่น ให้โอกาสสำหรับในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้คุณสามารถเพิ่มฐานลูกค้าและก็ยอดจำหน่าย พวกเรามาดู 3 เหตุผลหลัก ที่ทำให้ SEO นั้นมีความหมายต่อการธุรกิจ
• ช่องทางสำหรับเพื่อการเข้าถึงผู้คน เกือบจะ 60% ของการเข้าชมทั้งหมดทั้งปวงในโลกออนไลน์เริ่มด้วยการค้นหาสิ่งต่างๆใน Google แล้วก็ถ้าหากรวมเครื่องไม้เครื่องมือค้นหาที่ได้รับความนิยมอื่นๆเป็นต้นว่า Bing, Yahoo และก็ YouTube เข้าไปด้วยจะก่อให้จำนวนสูงมากขึ้นไปอยู่ที่70% ของการเข้าชมทั้งผอง
• น่าไว้วางใจมากยิ่งกว่าประชาสัมพันธ์ ในสายตาผู้ใช้งานจะเห็นว่าผลของการค้นหาทั่วๆไปน่าไว้วางใจมากยิ่งกว่าผลที่จำต้องจ่ายเงินก็เลยมีคนคลิกมากยิ่งกว่า
• ช่วยทุ่นค่าใช้จ่ายในระยะยาว SEO ยอดเยี่ยมในไม่กี่หนทางการตลาดออนไลน์ที่เมื่อทำถูกตามหลักทฤษฎี ดังเช่นว่า คุณมีรายละเอียดประเภทที่เรียกว่าดีแบบหาตัวจับได้ยาก ฯลฯ ชั้นที่คุณได้ชอบอยู่แบบนั้น ลากยาวไป ในเวลาเดียวกันเมื่อคุณหยุดชำระเงินค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณาขณะใด Google ก็จะหยุดส่งคนให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเมื่อนั้น

วิธีการทำ SEO ควรจะเริ่มจากอะไรดี

จะต้องขอบอกว่าวิธีแนวทางการทำและก็ไต่ชั้นของกระบวนการทำ Search engine optimization นั้นไม่ยาก แต่ว่าก็ไม่ง่ายเลย เพราะว่ามีหลายต้นสายปลายเหตุสำหรับในการทำให้เว็บพวกเราติดอันดับจวบจนกระทั่งจะเดินทางไปถึงอันดับหนึ่งได้ ด้วยเหตุดังกล่าว แนวทางการทำ SEO มีขั้นตอนอะไรบ้าง พวกเราจะสรุปให้ท่าน ดังต่อไปนี้

• Keyword (คีย์เวิร์ด) หมายถึงการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด จากคำค้นของผู้งานระบบ search engine ที่เข้ามาค้นหา เพื่ออยากได้คำตอบรวมทั้งให้ทราบดีว่าอยากได้สิ่งใด มีอะไรที่แก้ไขปัญหาให้เขาได้บ้าง วิธีการทำรายละเอียดที่ตอบปัญหาคำค้นหา ก็เลยเป็นแก่นสำคัญมากๆเรียกว่าเป็นปัจจัยสำคัญของการได้มาซึ่ง Organic Traffic อย่างยิ่งจริงๆ
• Site Structure แผนผังเว็บ อันนี้สำคัญมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากว่าวิธีการสร้างเว็บนั้นที่จริงแล้วพวกเราจะต้องศึกษากระบวนการทำ SEO ก่อน เพื่อที่จะได้ให้พวกเราสามารถคิดแผน เสมือนการที่พวกเราก่อสร้างบ้าน แนวทางการทำ SEO เป็นการเขียนแบบบ้าน แล้วก็คิดแผน ส่วนการผลิตเว็บเป็นการก่อสร้างบ้านตามแผนที่พวกเราวางไว้และก็อีกอย่างหนึ่งเป็น จะได้รู้ว่าเว็บแบบใดที่ระบบ Search Engine ถูกใจรวมทั้งประเมินผลสิ่งนั้นได้
• On-page เป็นการปรับแก้ SEO บนหน้าเว็บตนเอง สาระสำคัญของการปรับปรุงแก้ไขหน้าเว็บ เพื่อรายละเอียดทั้งหมดทั้งปวงบนเว็บมีส่วนเกี่ยวข้องกัน
• การเขียนบทความ SEO รายละเอียดของเว็บหมายถึงส่วนสำคัญของการผลิต Traffic เข้ามายังเว็บพวกเรา เนื่องจากคนเลือกหาสิ่งที่จำเป็น หากพวกเราทำคอนเทนต์ที่ผู้ใช้งานอยากได้ เขาย่อมต้องการวิ่งเข้าพบ แต่ว่าการผลิตรายละเอียดให้น่าดึงดูด น่าติดตาม น่าสนใจ ก็จำเป็นต้องใช้เคล็ดลับระดับสูงด้วยเหมือนกัน ก็เลยไม่ใช้ว่าจะง่าย แต่ว่าสิ่งพวกนี้สามารถฝึกซ้อมและก็ปรับแต่งได้
• Link Building เป็นราวกับการผลิตระบบการส่งลิงก์จากเว็บอื่นในลักษณะ Backlink มายังเว็บพวกเราหรือส่งลิงก์เพื่อไปอ้างอิงให้กับเว็บอื่น หรือแม้กระทั้งการผลิต Internal link เพื่อผู้เที่ยวชมเว็บ เข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวพันกับรายละเอียดที่หน้าตอนนี้ได้ จะช่วยทำให้พวกเราไต่ชั้นเจริญขึ้น